พล.ต.ต.ปิยะ พร้อมรับมือ #ม็อบ23กุมภา เผยอนุญาตให้ สล็อตแตกง่ายตร. ร่วมชุมนุมได้ พร้อมแนะนำเลี่ยง 12 เส้นทางใกล้แยกราชประสงค์ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมกรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวที่แยกราชประสงค์ช่วงเย็นวันนี้ ว่า มีทั้งหมด 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ที่เดิมนัดรวมตัวหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
แต่ล่าสุดได้ประกาศเปลี่ยนมารวมตัวที่แยกราชประสงค์ ส่วนอีก 2 กลุ่ม
คือ กลุ่มเยาวชนปลดแอก และราษฎร ที่นัดรวมตัวม็อบตำรวจล้มช้าง ที่แยกราชประสงค์เช่นเดียวกัน ในเวลา 17.00 น. โดย บช.น. ขอเตือนผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมว่า แม้ทางรัฐบาลจะมีการคลายล็อกบ้าง แต่ใน กทม.ยังคงมีประกาศห้ามชุมนุม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคอยู่ ซึ่งการนัดรวมตัวกันจะเข้าข่ายความผิดดังกล่าว และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า วันนี้มีการเตรียมกำลังชุดควบคุมฝูงชนของ บก.น.5 และ บก.น.6 ไว้แล้ว ส่วนจะใช้กำลังเพียงใดจะประเมินตามสถานการณ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากการข่าวพบว่าเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหลายครั้ง ส่วนใหญ่เกิดจากการทะเลาะวิวาทกันเอง ซึ่งการ์ดไม่สามารถควบคุมได้ จึงขอย้ำเตือนประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โปรดหลีกเลี่ยงการเข้าร่วม เพราะอาจได้รับอันตรายด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเชิญชวนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมการชุมนุม ม็อบตำรวจล้มช้าง หากมีตำรวจไปร่วมจะมีความผิดหรือไม่ รอง ผบช.น. กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่บุคคลสามารถกระทำได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าตำรวจมีระเบียบวินัย และไม่เข้าร่วมการชุมนุมอย่างแน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าตำรวจจะเข้าใจ ไม่ว่าเป็นตำรวจนครบาล และภูธร จะไม่ร่วมชุมนุมเด็ดขาด แต่หากพบตำรวจเข้าร่วมชุมนุม และพบการกระทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ บช.น.ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณแยกราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ คือ 1.ถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกประตูน้ำ 2.ถนนพระรามหนึ่ง ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่าถึงแยกราชประสงค์ 3.ถนนเพลินจิต ตั้งแต่แยกราชประสงค์ถึงแยกชิดลม ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร คือ 1.ถนนราชปรารภ 2.ถนนเพชรบุรี 3.ถนนพญาไท 4.ถนนพระราม4 5.ถนนอังรีดูนังค์ 6.ถนนสารสิน 7.ถนนสีลม 8.ถนนสาทร 9.ถนนวิทยุ 10.ถนนสุขุมวิท 11.ซอยต้นสน 12.ถนนหลังสวน
ต่ออายุต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน – วันนี้ 23 ก.พ. 2564 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้แถลงว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน สิ้นสุดถึงวันที่ 31 มี.ค. 2564 หลังจากที่วานนี้ ศบค.ชุดใหญ่มีมติ เห็นชอบต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทั้ง 2 การประชุม มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน
ชี้ชะตา! ศาลอาญาพิจารณา คดีกบฏ สุเทพ และคณะ กปปส. พรุ่งนี้
พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวก รวม 39 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ โดยคดีนี้อัยการโจทก์ยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2561 และศาลรับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.247/2561
ขณะที่นายสุเทพกับพวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวทุกคน ศาลอาญาจึงดำเนินการสืบพยานแบบต่อเนื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายนำเข้าสืบหักล้างจนแล้วเสร็จ และนัดฟังคำพิพากษาคดีวันที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 704
สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.56-1พ.ค.57 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคลชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” หรือกลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพเป็นเลขาธิการ โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร กองกำลัง แบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรฐานเป็นกบฏ
เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง
รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปเพื่อมิให้นายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส. จากนั้น กปปส.จะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชนเป็นรัฏฐาธิปัตย์
ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและ ครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สตช. บช.น. สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่งเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มอายุราชการทวีคูณหรือเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่จนท.ฝ่ายความมั่นคง ตามที่ฝ่ายค้านอภิปรายในสภา เรื่องดังกล่าวไม่ได้ให้กันโดยอัตโนมัติ ต้องผ่านครม. ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของครม.แต่อย่างใดสล็อตแตกง่าย